คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

การเข้าเรียน ครั้งที่ 14


การเข้าเรียน ครั้งที่ 14

วันนี้ วันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2555 เวลาเรียน 08.30-12.20 น 

-วันนี้นักศึกษาทุกคนรออาจารย์อยู่ที่ห้อง รอได้ซักพัก เเล้วก็มีเพื่อนขึ้นมาบอกว่าให้เพื่อนที่เรียนกับอาจารย์ไปหาอาจารย์ข้างล่างตึกคณะ พอเดินลงไปหาอาจารย์ อาจารย์ให้ไปเอากล้อง VDO เเละขาตั้งกล้องสายไฟ มาถ่ายVDO การเล่านิทานด้วยเทคนิคต่างๆที่พวกเราได้แบ่งกันไว้ตั้งแต่ 2 สัปดาห์ที่เเล้ว
พอไปเอากล้องมาก็มีพี่กวางที่เขาได้มาสอนในการใช้ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เเต่รู้ว่าจะไปค่อยถนัดเท่าไหรเลยให้ กมลวรรณ ศรีสำราญ เพื่อนอีกคนมาช่วยถ่ายVDO ให้แทน เราก็เป็นคนคอยบอกว่า ต้องขยับมาใกล้ๆกันนะ เดินขึ้นมาอีก

 

นิทานที่เราเล่ามชื่อว่า ที่อยู่ใหม่ของเรา

เล่าด้วยวิธีการเล่าไป ฉีกไป

 




- พอถ่ายกันเกือบเสร้จอาจารย์ก็ได้ขึ้นมาสอนต่อ อาจารย์ไดถามเเละได้บันทึกไว้ว่าใครบ้างที่มีความสามารถพิเศษในด้านต่างๆ เพื่อนทุกคนก็มีทั้งความสามารถแะละไม่มี แต่ทำไมถึงให้อาจารย์ต้องถามย้ำหลายๆรอซึ่งเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องของตัวเราเอง เราต้องมีข้อมูลที่สุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาถามซ้ำ หรือถามคำ ตอบคำ
- อาจารย์พูดถึงอาเซียนว่าเราจะสอนอาเซียนให้กับเด้กได้อย่างไร พวกเราต่างก็ร่วมตอบกันทุกคน เช่น การวาดภาพ ระบายสี การร้องเพลง สอนภาษาสื่อออกมาโดยลักษณะท่าทาง การเเสดงออก 
- อาจารย์ก็ได้พูดถึงว่าการเรียนที่มีการปรับปรุงและพัฒนาทำไมนักศึกษาไม่พัฒนาเลยสมุดบันทึกก็ไม่มี การทำงานต้องมีหลักฐาน คะเเนนอาจารย์ให้ทุกคน 100 คะเเนนแต่ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะสามารถรักษามันไว้มากน้อยเเค่ไหนเอง

องค์ความรู้

- การจัดประสบการณ์ต้องสอดค้องกับพัฒนาการของเด็และวิธีการเรียนรู้

- วิธีการเรียนรู้ของเด็กคือการลงมือกระทำโดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 และกระทำอย่างอิสระ

 
 
 
 
จาก VDO ที่กลุ่มของเราได้ยกมานี้ คือ 
 
             เรื่อง การจัดกิจกรรมการเเก้ไขปัญหาที่เด็กไม่กล้าพูดเเละไม่กล้าเเสดงออก
                     โดยคุณครูฐาวดี  ทองขะโชค โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า

การวิเคราะห์ VDO เรื่อง การจัดกิจกรรมการเเก้ไขปัญหาที่เด็กไม่กล้าพูดเเละไม่กล้าเเสดงออก
 
การสื่อสารของเด็กเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากในบางครั้งเด็กเข้าใจในสิ่งที่ครูสอนไป แต่เขาไม่พูดเลย ก็ทำให้เราคิดว่าเขาเข้าใจจริงหรือไม่ ธรรมชาติของเด็กคือขี้อาย ไม่กล้าเเสดงออก ควรหาสิ่งที่เป็นเเรงจูงใจในสิ่งที่เด็กคุ้นเคย โดยในกิจกรรมนี้คือลูกบอล หลังจากที่เด้กได้ร่วมทำกิจกรรมกับครูเเล้ว โดยเขาลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้เขาไม่พูด และจากนั้นครูก็ต้องการให้เด็กเห็นถึงที่มาของเสียงว่ามาจากไหน
 - สิ่งที่เเสดงให้เด็กเห็น ต้องสอดคล้องกับการกระทำ สีหน้าท่าทาง
 - กิจกรรมนิทานที่ครูเป็นคนเป็นคนที่วาดรุปให้กับเด็กเป็นคนเล่าเอง จะทำให้เราเห็นถึงพัฒนาการของเด็กโดยเฉพาะ ในเรื่องของการใช้ภาษาสื่อออกมาให้คนอื่นสามารถเข้าใจได้  เเต่ที่สังเกตเห็นคือภาพที่คุณครูได้วาดจะทำลูกศรเชื่อมภาพของเเต่ละภาพ เพื่อเป็นการเรียงลำดับเหตุการณ์ของการเล่านิทาน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น